วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปรัชญาชาวบ้าน


ถ้าก้าวพลาดไปหนึ่งก้าวจะเป็นไร เพราะยังมีก้าวใหม่ที่มั่นคง
  • ในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ปลาย่อมว่ายทวนน้ำเสมอ
    ปลาที่ลอยตามน้ำ ก็มีแต่ปลาตาย
    มนุษย์ต้องต่อสู้กับอุปสรรค เหมือปลาว่ายทวนน้ำ
    ผู้ที่ปล่อยชะตาไปตามเหตุการณ์
    ก็เหมือนคนที่ตายแล้ว  
  • ว่าวจะลอยขึ้นสูงได้ เพราะเหตุที่ต้านลม
    ถ้าหมดลมว่าวก็ตก มนุษย์เราจะขึ้นสูงอยู่ได้
    ก็เพราะต้องต่อสู้อุปสรรค
    ชีวิตที่ไม่เคยพบอุปสรรค จะหาทางก้าวหน้าไม่ได้เลย 
  • ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำลัง
    อุปสรรค คือหนทางแห่งความสำเร็จ
    ขอให้เราทั้งหลายพึงใจในการต่อสู้
    ยินดีเผชิญหน้ากับศัตรู และกล้าฝ่าฟันอุปสรรค  
  • ดอกไม้งามได้เพราะ รูปลักษณ์ และสีสัน
    คนจะงามได้เพราะ พระธรรม 
  • การยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง
    รสแห่งธรรม ย่อมชนะรสทั้งปวง
    การให้ทานธรรม ย่อมชนะการให้ทานทั้งปวง 
  • ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส เห็นใครทักก่อน
    นี่คือ.. วิธีแสดงเสน่ห์แบบง่ายๆ แต่ให้ผลมาก 
  • ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา ปัญหามีมาให้แก้
    ไม่ใช่มีมาให้กลัดกลุ้ม การแก้ปัญหา เป็นหน้าที่ของชีวิต 
  • บางคน มีวัตถุอำนวยความสะดวกมาก
    แต่ยังหาสุขไม่ได้
    บางคนมีวัตถุอำนวยความสะดวกไม่มาก
    แต่หาสุขได้
    สุขหรือไม่สุข....
    ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัตถุ แต่ขึ้นอยู่ที่ใจ
    ที่มองเห็นความเป็นจริงของโลกและชีวิต
    จนสามารถปล่อยวางคลายความยึดมั่นได้
  • การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
    แต่การแก้แค้นลงทุนมาก
  • เวลาเป็นยารักษาความทุกข์ ถ้าเราปล่อยให้ผ่านไป
    ยิ่งนานเท่าไร ความทุกข์ก็ยิ่งลดลง
    และอาจจะหายไปในที่สุด
  • การสะกิดคุ้ยเขี่ย ความผิดพลาดของผู้อื่น
    ปมด้วยของผู้อื่น มีแต่จะทำให้เขาเสียใจ และอาจทำให้เสียมิตร
    ส่วนรา.... ไม่ได้อะไรเลย
  • เรายังเคยเข้าใจผิดผู้อื่น
    ถ้าคนอื่นเข้าใจเราผิดบ้าง
    ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร
    ทำไมต้องเศร้าหมอง
    ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเข้าใจ
  • อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก
    อย่าโกรธไม่เป็นเวลา อย่าโกรธมาก
    จะเสียสุขภาพกาย และสุขภาพจิต 
  • คนที่ถูกนินทาด่าว่ามีอยู่ทั่วไป ถ้าจะเพิ่มเราเป็นผู้ถูกนินทา
    เข้าไปอีกสักคน จะเป็นไรไป
  • การนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องของเขา
    การให้อภัยเป็นเรื่องของเรา 
  • การชอบพูดถึงความดีของเขา คือความดีของเรา
    การชอบพูดถึงความไม่ดีของเขา คือความไม่ดีของเรา
  • เราเข้าใจเขาผิด เรายังรู้สึกเสียใจ
    เขาเข้าใจเราผิด ถึงเขาไม่พูด เขาก็คงรู้สึกเสียใจบ้างเหมือนกัน


3 วิธีง่ายในการทำความรู้จักกับหญิง

ใครว่ามีแต่ผู้หญิงที่รู้สึกประหม่าเวลาเจอหนุ่มในฝัน แต่ผู้ชายเองก็มีปัญหาเหมือนกันเวลาที่เจอกับหญิงสาวที่ถูกใจ พวกเขาจะทำอย่างไรเพื่อรวบรวมความกล้าที่มีแล้วตรงเข้าไปพูดคุยทำความรู้สึกกับนางในฝันอย่างไม่เก้อเขิน…


และนี่คือ 3 ขั้นตอนง่ายๆสำหรับให้หนุ่มๆใช้แก้อาการเก้อเขิน เวลาที่ไม่รู้จะเข้าไปเริ่มต้นบทสนทนายังไง หรือจะคุยเรื่องอะไรดีเพื่อให้น่าเบื่อ

ขั้นแรก สังเกตดูว่าผู้หญิงที่คุณสนใจกำลังทำอะไรอยู่

ยกตัวอย่างเช่น คุณพบผู้หญิงคนหนึ่งยืนเข้าแถวอยู่ด้านหลังคุณในซุปเปอร์มาร์เกต แม้ในมือของเธอจะไม่ได้ถือสัมภาระจากการช็อปปิ้งมากนัก แต่คุณลองสังเกตดูซิว่าเธอจะเลือกวางอะไรไว้บนสายพานก่อนนคิดเงินบ้าง หรือหากมีผู้หญิงอีกกำลังสั่งเครื่องดื่มที่ร้านสตาร์บั๊คส ขณะที่คุณกำลังต่อแถวรออยู่ ลองสังเกตดูซิว่าเธอสั่งเครื่องดื่มอะไร? ซึ่งการสังเกตทุกการกระทำของผู้หญิง เพื่อนำบริบทเหล่านั้นมาเป็นตัวบอกคุณว่าคุณควรจะพูดอะไร

“ผู้ชายส่วนมากมักเริ่มบทสนทนากับผู้หญิงด้วยการพูดเรื่องสัมเภเหระ โดยไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า ซึ่งบางครั้งทำให้มันดูเป็นเรื่องไร้สาระในสายตาของผู้หญิง และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเธอรู้สึกขบขันจนมักเอาไปเม้าท์ในกลุ่มเพื่อนๆว่า “เธอต้องไม่เชื่แน่ๆว่าเขาเข้ามาหาฉันและพูดว่าอะไร”

ขั้นตอนที่ 2 ทำตามสิ่งที่ได้สังเกตมา

หลังจากคณสังเกตพฤติกรรมคร่าวของเธอมาแล้ว คราวนี้ก็มาสู่ขั้นตอนของการปฏิบัติ โดยต้องเริ่มจากการเปิดเผยตัวตนของเธอ และ เปิดเผยความรู้สึก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสังเกตว่าผู้หญิงข้างหน้าคุณสั่งกาแฟเอ็กซ์เพรสโซ 2 แก้ว? สิ่งแรกที่คุณนึกถึงและปรากฏขึ้นในใจคุณ คือ ?คุณชอบดื่มกาแฟเหรอ? ซึ่งอย่าลืมว่า คำถามนั้นจะนำไปสู่คำตอบแค่ว่าใช่หรือไม่ แต่ถ้าเป็นผู้ชายที่รู้จักพรีเซ็นต์ตัวเองแบบ100% จะเลือกถามว่า ?เมื่อคืนคุณดื่มมาหนักหรือครับ หรือไม่ก็ วันนี้คงไปวันที่หนักมากสำหรับคุณู? จำไว้ว่าคุณจะเริ่มคำถามอย่างไร เพื่อให้คุณวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ หรืออยู่ในกระบวนการคิดของเธอ

มันเป็นการง่ายกว่าที่คุณจะพูดคุยกับเธอในเรื่องที่เธอมีประสบการณ์ร่วม เพราะผู้หญิงมักจะร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องทีอยู่ในหัวของเธฮ

อีกตัวอย่างหนึ่ง หากคุณกำลังอยู่ในบาร์ และเห็นผู้หญิงคนหนึ่งด่าถออด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย และเกรี้ยวกราดใส่คนข้างๆเธอ คุณอาจจะเดินเข้าไปโดยตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่า สาเหตุที่เธอมีอาการเช่นนั้น อาจเป็นเพราะว่า “เพื่อนของเธออาจมาสาย” ซึ่งนี่อาจเป็นหนึ่งในวิธีการเปิดการสนทนาโดยอาศัยพื้นฐานจากเรื่องอารมณ์และความรู้สึก เพราะผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเรื่องอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องสูง ซึ่งผู้ชายต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับอารณ์ของเธอ? แต่จะทำอย่างไรเพื่อไม่เข้าไปอยู่วังวนในความไม่แน่นอนและขึ้นๆลงๆของอารมณ์พวกเธอ” ซึ่งมันจะนำไปสู่ขั้นตอนที่ 3

ขั้นที่ 3 ฟังในสิ่งที่ผู้หญิงบอก เพื่อให้การสนทนาเป็นไปด้วยความราบรื่น และเพื่อผูกมัดความสัมพันธ์ของคุณ คุณต้องฟังใจในสิ่งทพวกเธอพูด เพราะการรับฟังจะทำให้ผู้ชายรู้ว่าควรพูดอะไรต่อไป ผู้ชายส่วนมากมักคิดว่าจะพูดอะไรต่อไปดี จนถึงขนาดมีสคริปอยู่ในหัวเลยว่าเมื่อไหร่ควรพูดอะไรดี ซึ่งการทำเช่นนั้นไม่เรียกว่าเป็นการสนทนา แต่มันเหมือนเป็นบทภาพยนตร์แย่ๆเรื่องหนึ่ง

บางครั้งผู้ชายก็มักสับสนในบางเรื่องอย่างไม่มีเหตุผล ซึ่งไม่มีหนทางวิเศษใดที่จะบอกได้ว่าคุณควรพูดหรือปฏิยัติตัวเช่นไร แต่หลักความจริงข้อหนึ่งคือ ผู้ชายควรพูดกับผู้หญิงเหมือนกำลังคุยกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งมันอาจจะเป็นการสนทนาทสนุกสนาน ตลก เพราะผู้ชายเพียงต้องการจะผ่อนคลาย และรับฟังสิ่งที่ผู้หญิงพูด

เพียงคุณปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งหมด และคุณจะพบกับบทสนทนาที่สุดเลิศ…

(จาก นสพ. ไทยรัฐ)