วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2567

คุกขี้ไก่คือสถานที่อะไรและทำไมถึงต้องเรียกว่าคุกขี้ไก่เราหาคำตอบมาให้คุณแล้วครับ


คุกขี้ไก่คือสถานที่อะไรและทำไมถึงต้องเรียกว่าคุกขี้ไก่เราหาคำตอบมาให้คุณแล้วครับ


ถ้าจะเอ่ยถึงคุกทุกคนก็ต้องคิดว่ามันต้องเป็นที่คุมขังนักโทษหรือผู้ที่กระทำผิดแต่คุกไม่มีหลายลักษณะสถานที่แต่สำหรับคุกที่จะเอ่ยถึงเนี่ยมันแปลกนะเพราะว่ามันเป็นคุกขี้ไก่ ขึ้นชื่อว่าขี้มันก็ต้องเหม็นอยู่แล้วนะครับแล้วนี่มันเป็นขี้ไก่ด้วยอ่ะ
เคยเห็นขี้ไก่ต้มมะแนไหม คุณเคยเห็นไหมเหม็นสุดๆเลยขี้ไก่ชนิดนี้เหลวๆเละๆดำๆเหม็นสุดๆๆเดี๋ยวเรามาเข้ารายละเอียดของคุกขี้ไก่กันเลยดีกว่านะครับ

คุกขี้ไก่ หรือ ป้อมฝรั่งเศส เป็นคุกโบราณ เมื่อปี พ.ศ. 2436 ฝรั่งเศสได้เข้ามายึดครองจังหวัดจันทบุรี และได้สร้างคุกขี้ไก่นี้ขึ้นมาเพื่อกักขังนักโทษชาวไทยที่ได้ต่อต้านกับชาวฝรั่งเศสที่มาอยู่ในประเทศไทยนี้ 

แต่ไม่เคยได้ใช้ พร้อมกับการสร้างตึกแดง ชั้นบนเป็นที่เลี้ยงไก่สำหรับถ่ายมูลใส่หัวนักโทษข้างล่าง 

คุกขี้ไก่มีลักษณะเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจุตรัสลอบเหลี่ยม มีขนาดกว้าง 4 เมตร สูง 10 เมตร ที่ตั้งของคุกขี้ไก่อยู่หมู่ที่ 1 ตำบลปากแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี


คุกขี้ไก่
Khuk Khi Kai
ตัวอาคารของคุกขี้ไก่
ตัวอาคารของคุกขี้ไก่
Mapวิกิมีเดีย | © โอเพนสตรีทแมพ
ข้อมูลทั่วไป
ประเภท
ป้อมปราการ, เรือนจำ
เมืองตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
ประเทศ

ประเทศไทยพิกัด
12°28′53″N 102°03′56″E / 12.4814°N 102.0656°E
เริ่มสร้างพ.ศ. 2436
ปรับปรุงพ.ศ. 2515
ข้อมูลทางเทคนิค
โครงสร้างอาคารก่ออิฐฉาบปูน


นักประวัติศาสตร์บางส่วนแย้งว่าอาคารแห่งนี้ไม่ได้สร้างเป็นคุก แต่สร้างเพื่อใช้เป็นป้อมสังเกตการณ์คู่กับตึกแดง มีชื่อว่า ป้อมฝรั่งเศส


คุกขี้ไก่ได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานโดยกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2539 และได้รับการบูรณะใหม่โดยกรมศิลปากรเมือปี พ.ศ. 2515 เพื่อเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงจัดพื้นที่ให้สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ง่าย


เป็นยังไงบ้างครับอ่านมาจนจบสุดท้ายของบทความแล้วใครลงได้ติดคุกขี้ไก่รับรองว่าเหม็นสุดๆเลยนะครับเลี้ยงไก่อยู่บนหัวส่วนตัวเองติดคุกอยู่ข้างล่างไกลขี้ลงมารถใส่หัวรับรองได้ว่าอยู่ไม่ไหวแน่ๆดีไม่ดีโรคจะกินเอาเพราะเชื้อโรคจะขี้ไก่มันเป็นอะไรที่รู้สึกสลดหดหู่มากเลยนะครับสำหรับการลงโทษแบบนี้มนุษย์ที่ทำกับมนุษย์ด้วยกันเอง


แมวสีกระดองเต่า


แมวสีกระดองเต่าเป็นแมวที่เขาบอกว่าตั้งชื่อตามลายที่ความคล้ายคลึงกับกระดองเต่า ลองดูซิว่ามันคล้ายจริงหรือเปล่า


แมวสีกระดองเต่า
สีขนของแมว
กระดองเต่า เป็นสีขนของแมว ซึ่งตั้งชื่อตามลายที่ความคล้ายคลึงกับกระดองเต่า คล้ายกับคาลิโก แมวกระดองเต่านั้นเป็นเพศหญิงโดยเฉพาะแมวกระดองเต่าตัวผู้นั้นหายากและมักเป็นหมัน

แมวลายกระดองเต่าขนสั้น
แมวลักษณะนี้เรียกโดยย่อว่า ทอร์ดีร์ แมวที่มีลักษณะเป็นสองสีแต่เป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สีขาว ยังสามารถเรียกว่าแมวกระดองเต่าได้สีที่ผสมอย่างใกล้ชิดหรือเป็นหย่อมใหญ่ มักจะได้รับการอธิบายว่าสีเป็นเฉดสีแดงและสีดำ แต่แท้จริงแล้ว "สีแดง" อาจหมายถึงเป็นสีส้ม สีเหลือง หรือสีครีมแทนและ "สีดำ" อาจหมายถึงเป็นสีคล้ายช็อกโกแลต เทา แท็บบี หรือสีน้ำเงินแมวกระดองเต่าที่มีรูปแบบแท็บบี เป็นสีหนึ่งของพวกมันในบางครั้งจะเรียกว่า ทอร์ดี

สำหรับนิยามของคำว่า "กระดองเต่า" มักไม่รวมสำหรับแมวบางสีที่มีจุดสีขาวค่อนข้างเล็กหรือไม่มีเลย แมวที่มีสีขาวเป็นส่วนใหญ่และมีหย่อมกระดองเต่าจะถือว่าเป็น แมวสามสี


 หรือในสหราชอาณาจักร เรียกว่ากระดองเต่าและสีขาว ในประเทศแคนาดาและสหรัฐ จะเรียกว่าคาลิโก

หรือหากแมวที่มีลวดลายกระดองเต่าและมีจุดเล็ก ๆ สีขาว บางครั้งเจ้าของเรียกกันว่า "ทอร์ดิโก" เป็นการรวมกันระหว่าง "ทอร์ดิ" และ "คาบิโก" แมวทอร์ทิ ที่มีสีขาวบริเวณคอไปจนเกือบถึงขามักถูกเรียกว่า "คาลิบี" เป็นการควบรวมของ "คาลิโก" และ "แท็บบี" ลายกระดองเต่ามักปรากฏในหลายสายพันธุ์ รวมทั้งในแมวบ้านที่ไม่ใช่พันธุ์แท้[8] และนิยมปรากฎในสายพันธุ์แจแพนีสบ็อบเทลและคอร์นิชเรกซ
👉แมวลายกระดองเต่า ที่มีรูปแบบเฉพาะเป็น "ลายหน้าแตก"



👉แมวที่มีลายกระดองเต่าเจือจาง
แมวสีกระดองเต่า จะมีลักษณะคล้ายเสื้อคลุมสีต่าง ๆ ด้วยเฉดสีแดงและดำหลากหลายเฉด และบางครั้งก็เป็นสีขาว ขนาดของแผ่นแปะอาจแตกต่างกันไปตั้งแต่ลวดลายที่มีจุดเล็ก ๆ ไปจนถึงพื้นที่สีขนาดใหญ่ โดยทั่วไปยิ่งแมวมีสีขาวมากเท่าไหร่ สีอีกส่วนก็จะยิ่งเข้มขึ้นเท่านั้น ซึ่งยีนเจือจางอาจปรับเปลี่ยนสีทำให้ขนสว่างขึ้นเป็นสีครีม น้ำเงิน ม่วง หรือสีเหลืองอ่อน ลายบนแมวกระดองเต่ามักจะไม่สมมาตร


ในบางครั้งแท็บบีที่มีสีน้ำตาล และแดง หรือสีสันอื่น ลวดลายเหล่านี้มักเรียกว่า ทอร์บิ-แท็บบี ซึ่งทอร์บีหรือแมวที่มีพื้นที่สีขาวขนาดใหญ่จะเรียกว่า คาลิบี มักไม่เป็นเรื่องแปลกที่จะมีลาย "หน้าแตก" โดยมีสีดำอยู่ด้านหนึ่งและสีส้มอีกด้านหนึ่ง โดยมีเส้นแบ่งที่สันจมูก สีของกระดองเต่ายังสามารถแสดงในรูปแบบจุด ซึ่งเรียกว่าจุดทอร์ตี

เขื่อนอิไตปู (Itaipú) เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ซึ่งในอดีตจัดได้ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก


เขื่อนอิไตปู

เขื่อนอิไตปู (Itaipú) เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ซึ่งในอดีตจัดได้ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่เขื่อนสามหุบเขาของจีนจะแล้วเสร็จ เขื่อนอิไตปูสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1984 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1988

เขื่อนอิไตปู
คำว่าอิไตปู แปลว่า"เสียงเพลงจากก้อนหิน"มาจากภาษากวารานิ (Guarani) ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม

เขื่อนอิไตปูกั้นแม่น้ำปารานาบริเวณเขตแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศปารากวัย จึงทำให้เขื่อนนี้เป็นทั้งผนังกันน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองประเทศอีกด้วย เขื่อนอิไตปูเป็นเขื่อนคอนกรีตชนิดเขื่อนแบบกลวง มีขนาดความสูง 180 เมตร 


มีความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ใช้คอนกรีตในการสร้างกว่า 28 ล้านตัน ซึ่งสามารถสร้างสนามฟุตบอลได้ 210 สนาม และใช้เหล็กมากขนาดสร้างหอไอเฟลได้ 380 หอเลยทีเดียว เมื่อสร้างเสร็จด้านเหนือเขื่อนจึงเกิดอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่กว่า 1,550 ตารางกิโลเมตร 


ระยะทางยาวลึกขึ้นไปทางเหนือเขื่อนอีกกว่า 160 กิโลเมตร มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 18 เครื่อง มีกำลังการผลิต 12,600 เมกะวัตต์ จึงสามารถจ่ายไฟให้กับประเทศปารากวัยได้ทั้งประเทศรวมทั้งเมืองใหญ่ของบราซิลทั้งกรุงเซาเปาโล 


และนครรีโอเดจาเนโร ได้อย่างสบาย แต่ภายหลังได้มีโครงการเพิ่มเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็น 20 เครื่อง ภายในปี 2550 และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 14,000 เมกะวัตต์